บางคนชอบภูเขา บางคนชอบแม่น้ำ มาเที่ยวทะเลสาบในประเทศเนปาล คุณจะได้ทั้งภูเขาและแม่น้ำ!!!
ประเทศเนปาลนอกจากจะมีชื่อเสียงทางด้านหิมาลัยอันงดงามแล้ว ทะเลสาบของประเทศเนปาล ก็งดงามไม่แพ้ใครเช่นกันนะคะ ในโพสนี้เราพาไปชมความงามของทะเลสาบในที่ต่าง ๆ กันค่ะ ชอบที่ไหนก็ปักหมุดกันได้เลยค่ะ
ทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake)
เป็นทะเลสาบ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนปาล ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโพครา เมืองรองของประเทศเนปาล อยู่ห่างจากเมืองหลวงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันตก 200 กิโลเมตร ทะเลสาบเฟวา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองโพครา และมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากที่สุด เรียกว่าเป็นจุดเก็บแต้มเลยก็ว่าได้ มาเนปาลแล้ว ต้องมาเก็บแต้มที่ทะเลสาบเฟวานะคะ
ทะเลสาบเฟวาตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 742 เมตร จากระดับน้ำทะเล ความงามของทะเลสาบแห่งนี้ มิใช่แค่ทะเลสาบเพียงอย่างเดียว แต่ภาพการสะท้อนของเทือกเขาหิมาลัย ที่ประกอบไปด้วย ยอดเขา มัจฉะปูชเรย์ (Machhapuchhre) ยอดเขาอันนาปุรณะ (Annapurna) และยอดเขาเดาลากิริ (Dhaulagiri) ทำให้ทะเลสาบเฟวา ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น กลางทะเลสาบ มีวัด บาราฮิ ของชาวฮินดู ให้ขอพรและสักการะ มีกิจกรรม ล่องเรือในทะเลสาบ ชมดวงอาทิตย์ตกดิน หรือเดินเล่นกินลม รอบ ๆ ทะเลสาบ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับทะเลสาบเฟวานี้ เราไปเที่ยวได้ทั้งปีเลยค่ะ แต่อยากเห็นหิมาลัยแบบแจ่ม ๆ เต็มตา ช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน และช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน จะสวยงามมากค่ะ
การเดินทาง การเดินทางมายังทะเลสาบแห่งนี้ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง หรือโดยเครื่องบิน 30 นาที จากเมืองหลวงกาฐมาณฑุ
ปล. นอกจากมาเที่ยวทะเลสาบแล้ว ยังได้เที่ยวเมืองโพครา ซึ่งเป็นเมืองรองที่มีชื่อเสียงของประเทศเนปาล รับรองได้ว่า คุณจะหลงรักเมืองนี้ จนอยากมาซ้ำเลยหล่ะค่ะ
ทะเลสาบ โกเคียว (Gokyo Lake)
ทะเลสาบโกเคียว ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ สกามาทา หรือที่รู้จักกันดีในนามเขตเอเวอร์เรส ที่ระดับความสูง 4,700–5,000 ม. (15,400–16,400 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล มีนักท่องเที่ยวโดยเฉลี่ย 7,000 คน ต่อปีมาเยี่ยมชมทะเลสาบแห่งนี้ เป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาหิมาลัย เราสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสที่สูงที่สุดในโลก ได้จากยอดเขา โกเคียวริ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม ในฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) ทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นน้ำแข็ง สีขาวโพลน สามารถเล่น สเกตน้ำแข็งได้เลย หลังจากนั้นน้ำแข็งจะค่อย ๆ ละลายเป็นสีฟ้า กลางเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนกันยายน มีฉากหลังเป็นยอดเขาหิมาลัย ขาวไปหมด
และในฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน) น้ำแข็งจะละลายหมดแล้ว ทะเลสาบจะเป็นสีเขียว ฉากหลังเป็นหิมาลัยสีดำสลับขาว ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใส งดงามมากเลยหล่ะค่ะ
การเดินทาง อย่างที่เคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว การเดินทางมายังทะเลสาบแห่งนี้ก็ยากลำบากกันหน่อยค่ะ เนื่องจากไม่มีรถหรือยานพาหนะใด ๆ สามารถเข้าถึงได้ นอกจากสองเท้า หรือสี่เท้าของน้องจามรี หรือม้า แต่แอดมินว่า เดินด้วยสองเท้าตัวเองน่าจะดีกว่าขี่น้อง ๆ เพราะเสียวในการเดินขึ้นเขาลงห้วยของน้อง ๆ จะพาหัวทิ่มเอาก่อนถึงจุดหมายปลายทาง
การเดินทางไปยังทะเลสาบ ทำได้โดยนั่งเครื่องบินเล็กจากเมืองกาฐมาณฑุ ไปยังเมืองลูกลา และเริ่มเดินเท้า ซึ่งใช้เวลาไปกลับประมาณ 10 วัน คือต้องมีร่างกายที่แข็งแรง กันซักหน่อยนะคะ หรือจะไปแบบสวยและรวยมาก โดยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ ไปชม ทั้งยอดเขาเอเวอร์เรส และชมทะเลสาบโกเคียวด้วยก็ได้ ซึ่งรวมบินไปกลับจากเมืองกาฐมาณฑุ ประมาณ 3 ชั่วโมง
อยากได้ความฟินเพิ่มเติมของเส้นทางนี้ ติดตามได้ใน Blog ของเรานะคะ https://bit.ly/TNT-Gokyo-Lake
ปล. นอกจากทะเลสาบจะสวยงามมากมายแล้ว วิวระหว่างทางมายังทะเลสาบก็สวยงามเช่นกันค่ะ ใครสนใจเส้นทางนี้ ก็ปักหมุดกันไว้ได้ แต่ต้องฟิตซ้อมร่างกายกันซักหน่อยนะคะ
ทะเลสาบ ทิลิโชะ (Tilicho Lake)
ทะเลสาบ Tilicho ตั้งอยู่ในเขต มนัง ของเนปาล 55 กิโลเมตร จากเมืองโปครา ที่ความสูง 4,919 เมตร (16,138 ฟุต) ในเทือกเขา อันนาปุรณะ ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่สูงที่สุดในโลก
ช่วงเวลาที่เหมาะสม ทะเลสาบแห่งนี้ จะเป็นสีฟ้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ((กันยายน-พฤศจิกายน) ล้อมรอบด้วยภูเขาสีน้ำตาลแห้งแล้ง คล้าย ๆ กับภูเขาทางทิเบต และจะเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ของประเทศเนปาล (มีนาคม-เมษายน)
การเดินทาง การเดินทางมายังทะเลสาบทิลิโชะ ต้องเดินด้วยเท้า หรือขี่น้องลา น้องม้าไปเท่านั้นค่ะ เป็นเส้นทางเดินป่าในเส้นอันนาปุรณะเซอร์กิต ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไปกลับประมาณ 10 วันเช่นกัน ที่มันยาวนานขนาดนี้เนื่องจากต้องมีวันพักตัวปรับร่างกายให้ชินกับสภาพอากาศและความสูง ไม่งั้นจะเสี่ยงกับการเป็นโรคแพ้ความสูงได้ง่ายเช่นกันค่ะ
การเดินทางเริ่มต้นด้วย เดินทางด้วยรถยนต์จากเมืองกาฐมาณฑุ ไปยังเมืองเบสิสห ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง วันต่อมาเดินทางด้วยรถจิ๊บ ถึงหมู่บ้านมนังได้เลย ใช้เวลา 9-10 ชั่วโมง หรือใครที่ต้องการเดิน ก็ใช้เวลาเดินประมาณ 4-5 วัน ถึงหมู่บ้านมนัง จากนั้นต้องปรับสภาพร่างกายที่นี่ ประมาณ 2-3 วัน และต้องเดินเท้าไปยังทะเลสาบ อีก 2 วัน นึกภาพแล้วดูทรหดอดทนมากเลยนะคะ ดังนั้นใครปักหมุดตั้งใจจะไปทะเลสาบแห่งนี้ เตรียมฟิตซ้อมร่างกายไว้เลยค่ะ
ปล. วิวระหว่างทางในเส้นทางนี้ ก็สวยงามยิ่งนักเช่นกันค่ะ ดูรายละเอียดโปรแกรมการเดินทางได้ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://bit.ly/TNT-Annapurna-Circuit
ทะเลสาบ โฮลี โกไซกุนดา (Gosainkunda Holy Lake)
ทะเลสาบ โกไซกุนดา เป็นทะเลสาบน้ำจืดอัลไพน์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ลังตัง ที่ระดับความสูง 4,380 ม. (14,370 ฟุต) นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 108 แห่งในบริเวณใกล้เคียง ทะเลสาบโกไซกุนดา จะเป็นน้ำแข็ง เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ธันวาคม-พฤษภาคม
พื้นที่เขตโกไซกุนดา ถือเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู เป็นที่พำนักของเทพพระศิวะ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ถือเป็น น้ำศักดิ์สิทธิ์ และมีความสำคัญเป็นพิเศษในช่วงเทศกาล แกงกาดัสชาฮารา และเทศกาล จาไนปูร์นิมา จะมีผู้แสวงบุญหลายพันคนจากเนปาลและอินเดียจะมาแสวงบุญที่นี่
โดยเชื่อกันว่า ทะเลสาบแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยพระศิวะ เมื่อเขาแทงตรีศูลศักดิ์สิทธิ์ ของเขาลงบนภูเขา เพื่อดึงน้ำออกมาเพื่อทำให้คอที่แสบของเขาเย็นลงหลังจากที่เขากลืนพิษเข้าไปในการกวนเกษียรสมุทร
เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ เป็นเขตติดต่อกับชายแดนเนปาลทิเบต ใช้เวลาเดินประมาณ 5 วัน สำหรับคนเนปาล ซึ่งเป็นคนท้องถิ่น ที่ไปแสวงบุญ จะใช้เวลาในการเดินแค่ 3 วัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับทะเลสาบโกไซกุนดา สามารถเดินทางได้ทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่สวยงามจะอยู่ในช่วง เดือน ตุลาคม-ธันวาคม และเดือน กุมภาพันธุ์-เมษายน
การเดินทาง การเดินทางในเส้นทางนี้ไม่ซับซ้อน มากมาย ใช้เวลานั่งรถจากเมืองกาฐมาณฑุ ไปยังหมู่บ้านดุนเช 7-8 ชั่วโมง และวันต่อไปก็เดินไปยังทะเลสาบโกไซกุนดา ได้เลยค่ะ
สำหรับใครที่มีเวลาไม่มาก ชอบการเดินป่าที่เงียบสงบ ไม่เหนื่อยมาก กับตำนานทะเลสาบอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมวิวหิมาลัยและทะเลสาบ ที่สวยงาม ปักหมุดในเส้นทางนี้ได้เลยค่ะ
Comments